ประวัติพระผุด

พระผุด

คนไทย มีการเคารพกราบไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มาช้านานแล้ว จนเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งก็ว่าได้ “พระผุด-ทวดด้วน” (เศียรพระถึงอุระและท้ายปืนใหญ่โบราณ) เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่มีมาช้านานและคู่บ้านคู่เมืองของชาวหาดใหญ่ คนรุ่นก่อนพูดอยู่เสมอว่า”พระผุด-ทวดด้วน”อุบัติขึ้นมาคู่กับ”คลองอู่ตะเภา” (คลองหาดใหญ่ใน) และยังอยู่ในความทรงจำของผู้เฒ่าผู้แก่เสมอมา

ประมาณปี 2483-2485 บ้าน ”โคกเสม็ดชุน” ยังไม่เจริญรุ่งเรืองเป็นเมืองใหญ่เช่นทุกวันนี้บริเวณบ้านท่าเคียนซึ่งเป็น หมู่บ้านหนึ่ง และเป็นป่ารกชัฏ ผู้คนชาวบ้านทั่วไป  ไม่กล้าเดินผ่านเข้าไปในบริเวณดังกล่าวเนื่องจากหวาดกลัวต่อสัตว์ร้ายนานาชนิดที่ชุกชุมอยู่ทั่วไปในยุคโน้น

เรือง”ทวดด้วน”(ลักษณะเป็นท้ายปืนใหญ่โบราณ) เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในลำคลองอู่ตะเภาเป็นข่าวลือกระฉ่อนไป ทั้งหมู่บ้านท่าเคียนเนื่องจากมีพรานเบ็ดพายเรือไปธงเบ็ดราวในลำคลองอู่ตะเภาเมื่อเวลาพลบค่ำ ได้พบกับวัตถุสิ่งหนึ่งลอยมาในลำคลอง ต่อมาพรานเบ็ดได้เข้าไปใกล้กับวัตถุสิ่งนั้น ปรากฏว่าเป็นท้ายปืนใหญ่สมัยโบราณที่ลอยมากับน้ำ  จึงได้ขึ้นมาบนฝั่ง ที่บ้านท่าเคียนแล้วได้นำชาวบ้านจำนวนเกือบร้อยคน ใช้เชือกล่ามวัวลากขึ้นมาจากลำคลอง แต่ปรากฏว่าไม่สามารถที่จะนำขึ้นมาได้เพราะมีน้ำหนักมาก ต่อมาภายหลังชาวบ้านได้นำพระเกจิอาจารย์มาทำพิธีอันเชิญมาประดิษฐานไว้ ณ ริมฝั่งคลองอู่ตะเภา (ปัจจุบันนี้ คือ วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างกลภาคใต้ ต.ท่าเคียน) ส่วน

“พระผุด” นั้นได้อยู่บริเวณวัดร้างซึ่งเป็นที่ของกรมศาสนา และมีแอ่งน้ำที่ให้วัวควายได้อาศัยน้ำกิน อยู่มาวันหนึ่งแอ่งน้ำดังกล่าวได้เกิดการแห้งลง ชาวบ้านที่นำหัวมาเลี้ยงบริเวณนั้น ได้เห็นเศียรพระโผล่ขึ้นมา เมื่อชาวบ้านระดมกำลังช่วยกันขุดดินรอบๆ เศียรพระก็พบว่ามีเพียงเศียรถึงอุระเท่านั้น และต่อมาชาวบ้านท่าเคียนได้โจษจันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของ “พระผุด-ทวดด้วน” เนื่องจากว่าชาวบ้านไปบนบานของสิ่งใดก็ได้ตามที่ใจปรารถนา และเนื้อที่ “เรื่องจริงที่ถูกบันทึก” ฉบับนี้หาดใหญ่เจอนัล ได้เข้าพบกับ อาจารย์นิรัตน์  กาฬพันธุ์ ผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างกลภาคใต้ เพื่อขอทราบถึงรายละเอียดดังกล่าว “ณ ตรงที่ประดิษฐาน “พระผุด” เมื่อสมัยก่อนเขาเรียกเป็นวัดร้าง ซึ่งเป็นที่ของกรมศาสนา และเมื่อก่อนมีแอ่งน้ำอยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งเป็นแอ่งน้ำเล็กๆ ต่อมาเมื่อน้ำในแอ่งแห้ง ปรากฏว่ามีเศียรพระโผล่ขึ้นมาชาวบ้านในละแวกนั้นได้ออกมาดู และทำการขุดลงไป และพบว่ามีขนาดจากระดับเศียรถึงอก”

“หลังจากขุดขึ้นมาได้แล้วก็ได้นำมาบูรณะโดยการสร้างองค์ขึ้นมา และได้ตั้งชื่อว่า “พระผุด” สาเหตุเพราะโผล่ออกมาจากพื้นดิน”

“จนกระทั่งต่อมาชาวบ้านก็ได้เห็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้อีกอย่างหนึ่งคือ ได้มีวัตถุหนึ่งลอยน้ำมาเมื่อชาวบ้านได้เข้าไปดูปรากฏว่าเป็นท้ายปืนใหญ่มีน้ำหนักมาก แต่ยังสามารถลอยน้ำได้ และชาวบ้านได้พยายามที่จะเอาขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ แต่ก็ไม่สามารถนำขึ้นมาได้ จึงได้มีการเชิญพระเกจิอาจารย์รุ่นอาวุโส มาทำพิธีอันเชิญ ชาวบ้านจึงได้เรียกท้ายปืนใหญ่นี้ว่า “ทวดด้วน” เพราะมีเพียงส่วนท้าย และนำประดิษฐานไว้ตรงหน้า พระผุด”

ท่านผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างกลภาคใต้ (ท่าเคียน) ได้กล่าวอีกว่าของศักดิ์สิทธิ์ “พระผุด-ทวดด้วน”ทั้งสองอย่างนี้มีประชาชนเคารพกราบไหว้ซึ้งจะปรากฏเห็นอยู่เสมอทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด บางคนก็จะนำสิ่งของมาแก้บน เมื่อ เมื่อขอพรได้สำเร็จในสิ่งต่างๆ เมื่อสมความประสงค์แล้ว หากท่านผู้อ่านมีความสนใจที่จะชม "พระผุด-ทวดด้วน”สถานที่ดังกล่าวนี้อยู้ไม่ไกลนักเพราะอยู่บริเวณวิทยาลัยเทคโนโลยีช่างกลภาคใต้” ถนนพลพิชัย ต.ท่าเคียน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และสำหลับท่านที่ได้บนบานไว้เพื่อให้สำเร็จในสิ่งต่างๆเมื่อสมควรประสงค์แล้ว หากจะมีการจุดประทัดถวายเพื่อ “แก้บน” โดยทางวิทยาลัยได้ว่างกฎระเบียบไว้ดังนี้ ของเป็นตอนเที่ยงหรือหลังเลิกเรียน เพราะว่าเป็นการรบกวนสมาธิของนักเรียนและครูที่กำลังสอนอยู ส่วนวันวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ จะสะดวกที่สุด และสำหลับทำบุญ ประจำปีให้กับ “พระผุด-ทวดด้วน” ทางโรงเรียนฯ ได้จัดขึ้นทุกปี ตรงกับ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 จะมีการนิมนต์พระมาทำบุญร่วมกับชาวบ้านเป็นประจำ